| |
 |
| สวัสดีท่านที่สนใจในอเมริกันบูลลี่ ที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของผมในวันนี้ ก็อยากจะมาอธิบายเกี่ยวกับมาตรฐานของสุนัขสายพันธุ์ “อเมริกันบูลลี่” ให้เห็นเป็นบรรทัดฐานอีกทางหนึ่งครับ... เรื่องราวของอเมริกันบูลลี่มีมาเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว หลังจากที่ในอเมริกาได้สร้างสุนัขพันธุ์นี้ขึ้นมาจนได้รับความนิยมไปทั่วโลก เมืองไทยก็เริ่มนำเข้ากันเข้ามาไม่ขาดสาย ซึ่งผมจะสรุปคร่าวๆ ให้ฟังนะครับ เริ่มจาก... |
| .: 1. ลักษณะสายพันธุ์อเมริกันบูลลี่ :. |
| สุนัขบูลลี่มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายสไตล์ หลายแนว จากสมัยก่อนเริ่มต้นจากตระกูลต้นตำรับ “RazorsEdge” (เรเซอร์เอจ) อันโด่งดัง ยังมี “GottiLine” (ก็อตติไลน์) ทั้งสองมีลักษณะโดดเด่นต่างกัน แล้วแต่ความชอบ ส่วนสายอื่นๆ นั้นเรียกตามความนิยมของตัวสุนัข หรือเรียกตามชื่อคอกดังๆ ในอเมริกา เช่น สาย “RemyLine” (เรมี่ไลน์) สาย “KingPin” (คิงพิน) สาย “TBC The Bully Camp Line” (ทีบีซี เดอะบูลลี่แคมป์ไลน์) สาย “Bullseye” (บูลอาย) สาย “Daxline” (แดกซ์ไลน์) ฯลฯ และที่นิยมในปัจจุบัน ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.2560 ถึงปัจจุบัน เราเรียกว่า “Exotic Bully” (เอ็กโซติกบูลลี่) สไตล์นี้เป็นการผสมผสานระหว่างสุนัขพันธุ์อื่นเข้ามารวมกับบูลลี่ในช่วงนั้น เช่น นำเอาเฟรนช์บูลด็อก หรือบลูด็อก หรืออิงลิชบลูด็อก หรือเอ็กโซติกเฟรนช์บลูด็อก ต่างๆ หรืออื่นๆ เข้ามารวมกับบูลลี่ จนกลายเป็นเอ็กโซติกบูลลี่ ในปัจจุบันค่อนข้างนิ่งแล้ว และลงตัวมาก สิ่งที่ได้รับคือความน่ารัก นิสัยดีมาก รูปร่างอันสวยงาม หน้าสั้น กล้ามสวย มีความน่าเกรงขามเหมือนเดิม... ทั้งนี้แล้วแต่ความชอบของผู้เลี้ยง ผู้เพาะพันธุ์ บางท่านอาจจะชอบในแบบทรงมาตรฐาน บางท่านอาจชอบแบบกลางๆ แต่สำหรับทางฟาร์มทีเอ็นทีของผม ผมชอบในแบบ Exotic Bully ที่มีขนาดประมาณไม่เกิน Pocket ถึง Micro ซึ่งจะกล่าวในข้อถัดไปครับ |
| |
| .: 2. ขนาดของสุนัขอเมริกันบูลลี่ :. |
| อเมริกันบูลลี่ยังคงมีหลายสไตล์ ผมจะแยกเป็นข้อๆ ดังนี้ |
| .: 2.1 Classic Bully (คลาสสิคบูลลี่) :. |
| สุนัขบูลลี่ในคลาสนี้จะมีความเป็นต้นตระกูล ค่อนข้างเพรียว ดูปราดเปรียว กล้ามเนื้อจะชัดเจนมาก หางต้องยาว ยืนสวย ขาหน้า-หลังดี ฟันดี ไม่เหยิน ไม่อันเดอร์ ความสูง (วัดตรงขาหน้า ถึงหลัง) ในเพศผู้ สูง 17-20 นิ้ว ในเพศเมียสูง 16-19 นิ้ว ส่วนสีนั้นไม่จำกัดครับ |
| .: 2.2 Standard Bully (สแตนดาร์ดบูลลี่) :. |
| สุนัขบูลลี่ในคลาสนี้ต้องมีความสมบูรณ์ ถ้าตามมาตรฐานที่ประกวดกันต้องมีหางที่ยาวสวย ยืนสวย ขาหน้า-หลังดี ฟันดี ไม่เหยิน ไม่อันเดอร์ และที่สำคัญความสูง (วัดตรงขาหน้า ถึงหลัง) ในเพศผู้สูง 17-20 นิ้ว ในเพศเมียสูง 16-19 นิ้ว ส่วนสีนั้นไม่จำกัดครับ สูงเท่ากับทรงคลาสสิค แต่ร่างกายจะดูกำยำกว่าคลาสสิคบูลลี่หน่อยครับ |
| .: 2.3 Extrem Bully หรือ XL Bully (เอ็กซ์ตรีมบูลลี่) :. |
| สุนัขบูลลี่ในคลาสนี้ชัดเจนเลย ต้องหนาๆ ใหญ่ๆ หัวเบิ้มๆ ต้องมีความสมบูรณ์กล้ามเนื้อ ถ้าตามมาตรฐานที่ประกวดกันต้องมีหางที่ยาวสวย ยืนสวย ขาหน้า-หลังดี ฟันดี ไม่เหยิน ไม่อันเดอร์ และที่สำคัญความสูง (วัดตรงขาหน้า ถึงหลัง) ในเพศผู้สูง 20-23 นิ้ว ในเพศเมียสูง 19-22 นิ้ว ส่วนสีนั้นไม่จำกัดครับ สูงใหญ่มากครับ |
| .: 2.4 Pocket Bully (พ็อกเก็ตบูลลี่) :. |
| สุนัขบูลลี่ในคลาสนี้เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ยังหาได้ในเมืองไทยทั่วไป เนื่องจากว่าดูโดยรวมแล้วมีความกระชับ ขาไม่ยาวมาก ดูไม่เก้งก้าง แต่หนาๆ หน่อย มีความสมบูรณ์กล้ามเนื้อ ถ้าตามมาตรฐานที่ประกวดกันต้องมีหางที่ยาวสวย ยืนสวย ขาหน้า-หลังดี ฟันดี ไม่เหยิน ไม่อันเดอร์ และที่สำคัญความสูง (วัดตรงขาหน้า ถึงหลัง) ในเพศผู้สูง 14-17 นิ้ว ในเพศเมียสูง 13-16 นิ้ว ส่วนสีนั้นไม่จำกัดครับ ปัจจุบันมีประกวดใสรุ่นนี้กันมากเลยทีเดียว ราคาในรุ่นนี้ก็ยังดีอยู่ครับ |
| .: 2.5 Micro Bully (ไมโครบูลลี่) :. |
| สุนัขในคลาสนี้ยังคงเป็นแค่คำเรียกบูลลี่ที่ตัวเล็กกว่ามาตรฐานที่กล่าวมาเบื้องต้น คือในเพศผู้ต่ำกว่า 14 นิ้ว ในเพศเมียต่ำกว่า 13 นิ้ว เราก็จะเรียกว่าเป็นไมโครบูลลี่ได้แล้ว เพราะหลังๆ มานี่บรีดเดอร์ต่างก็แข่งขันบรีด เพื่อพัฒนาขึ้นมา หาข้อแตกต่างจากคนอื่นๆ คือของฉันเล็กกว่านะ หน้าสั้นกว่านะ หางดีด้วยนะ ไหล่กว้างๆ สวยๆ ดูสง่างาม ยิ่งแข่งกันมาก บูลลี่ที่บรีดมาก็ยิ่งเพี้ยน!!!หนักมากขึ้นทุกวันๆ จึงเรียกบูลลี่ที่เล็กลงมาว่า Micro Bully!!! แต่รุ่นนี้ยังไม่มีประกวดเป็นมาตรฐานนะครับ มีแต่ประกวดในคลาสของ Exotic Bully ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เอ็กโซติกบูลลี่ จะแข่งกันตัวเล็กล่ะครับ ใครเล็ก และครบเครื่องกว่า เข้าตากรรมการก็จะชนะไป ไม่ต้องเดินสวย แค่เอามายืนบนโต๊ะ สแต็คให้สวย นิ่งๆ ผมเป็นกรรมการจะชอบให้หันข้างให้ดูด้วยนะครับ ว่าขาหลังสวยไหม ตูดโด่งไหม ผมว่าสวยแต่ด้านหน้ามันไม่พอนะครับ อันนี้มันเป็นเรื่องแล้วแต่ความคิดเห็นของแต่ละท่านเลยครับ |
| สำหรับท่านที่อยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานของอเมริกันบูลลี่ แนะนำให้เข้าไปอ่านในเว็บไซต์ของสมาคม ABKC ของคุณ Dave Wilson ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดอเมริกันบูลลี่ ตามเว็บลิงค์นี้ได้เลยครับ http://theabkcdogs.org/ |
| |
| .: มาตรฐานของอเมริกันบูลลี่ ในแบบของสมาคม ABKC :. |
หลายท่านคงยังไม่ทราบเกี่ยวกับมาตรฐานของสายพันธุ์อเมริกันบูลลี่ หรืออาจจะยังผ่านตากันไปบ้าง จำได้บ้างไม่ได้บ้าง วันนี้ผมจึงนำมารวบรวมให้ชมกัน ขนาดของอเมริกันบูลลี่แบ่งออกเป็น 5 ขนาดด้วยกัน (มกราคม 2558) |
| |
THE ABKC BULLY STANDARD
Standard Bully
Males 17 inches – 20 inches
Females 16 inches – 19 inches
Pocket Bully
Males under 17 inches and no less than 14 inches
Females under 16 inches and no less than 13 inches
XL Bully
Males over 20 inches - 23 inches
Females over 19 inches – 22 inches
Classic Bully
Males 17 inches – 20 inches
Females 16 inches – 19 inches
 
|
| |
|
| .: Exotic Bully (เอ็กโซติกบูลลี่) คืออะไร? :. |
จบด้วยเรื่องขนาดของสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่แล้ว เรามาว่ากันในเรื่องของสไตล์ หรือรูปแบบ ของสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ในแบบของ “เอ็กโซติกบูลลี่” (Exotic Bully) กันต่อ เบื้องต้นผมได้กล่าวไว้แล้วว่า ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.2560 ถึงปัจจุบัน เราเรียกว่า “Exotic Bully” (เอ็กโซติกบูลลี่) สไตล์นี้เป็นการผสมผสานระหว่างสุนัขพันธุ์อื่นเข้ามารวมกับบูลลี่ในช่วงนั้น เช่น นำเอาเฟรนช์บูลด็อก หรือบลูด็อก หรืออิงลิชบลูด็อก หรือเอ็กโซติกเฟรนช์บลูด็อก ต่างๆ หรืออื่นๆ เข้ามารวมกับบูลลี่ จนกลายเป็นเอ็กโซติกบูลลี่ ในปัจจุบันค่อนข้างนิ่งแล้ว และลงตัวมาก สิ่งที่ได้รับคือความน่ารัก นิสัยดีมาก รูปร่างอันสวยงาม หน้าสั้น กล้ามสวย มีความน่าเกรงขามเหมือนเดิม... |
แต่ผมจะขยายความเรื่องขนาดของเอ็กโซติกบูลลี่ให้ฟังอีกนิด เนื่องจากในปัจจุบันมีความสับสนระหว่าง สไตล์ กับ ขนาด เป็นที่ถกเถียงกันมากในสังคม สุนัขในแบบเอ็กโซติกบูลลี่มีหลายขนาดนะครับ เริ่มต้นแรกๆ เมื่อช่วงปี 2560 ผมเห็นเอ็กโซติกบูลลี่เริ่มมาด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่มาก คงเป็นเพราะว่าบรีดเดอร์นั้นได้นำบูลลี่ไป Out Cross กับบูลด็อกที่มีทรงผิดมาตรฐาน เช่น บูลด็อกที่มีไหล่กว้างๆ ดูเป็นเอ็กโซติกบูลด็อก พอเอาบูลลี่ไปใส่ สิ่งที่ได้ก็จะหน้าสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด บางตัวก็หางสั้น บางตัวก็หางดี คละกันไปในชุดนั้นๆ บรีดเดอร์บางคนก็เอาไปใส่เฟรนช์บูลด็อก ที่มีทรงแปลกๆ เช่นกัน สมัยนั้นเรียกว่า “ช็อตตี้บูล” แต่ไปๆ มาๆ กลับเรียกว่า “เอ็กโซติกบูลลี่” ซะงั้น แต่นี่ตกลงเราซื้อบูลลี่หรือบูลด็อกหรือช็อตตี้บูลกันแน่??? แรกๆ ก็งงล่ะครับ รูปพ่อที่โชว์กันมันเป็นบูลลี่ แต่ทำไมสีที่ออกมามันไม่เหมือนพ่อเลยก็มี ใครจะรู้ได้? แต่ที่แน่ๆ คือทำไมลูกสุนัขมันสวยจัง สวยมาก กลับขายได้ในราคาดีกว่าบูลลี่ปกติที่บรีดกันซะงั้น!!! ทำกำไรให้กับบรีดเดอร์นั้นมหาศาลเลยครับ ผมนั่งดูความเปลี่ยนแปลงในยุคนั้นอย่างตื่นเต้น เอาจริงๆ แรกๆ ผมก็แอนตี้นิดๆ ครับ แต่ก็ยอมรับได้ เมื่อผมเห็นสิ่งที่บรีดเดอร์ในอเมริกาสร้างขึ้นมา มันกลับทำให้อเมริกันบูลลี่ดูดี มีสเน่ห์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งราคาก็พุ่งปรี๊ดเลยทีเดียว จากช่วงแรกๆ ที่ Pocket Bully กำลังฮิตกันผมนำเข้าพ่อพันธุ์ตัวท็อปๆ มาขายราคาก็ระดับ 10-15k (ราวๆ 3-5 แสน) แต่พอช่วง Exotic Bully กำลังฮิต นำเข้าระดับท็อปๆ ก็พรุ่งขึ้นไป 15-30k (ราวๆ 5 แสน ถึง 1 ล้าน) ยิ่งตอนหลังๆ แข่งกันทำ Exotic Bully ในทรง Micro Bully นี่แล้วล่ะก็ ราคาก็ขยับขึ้นไปอีกหลายล้าน จนปัจจุบันมี Exotic Bully ในทรง Nano Bully คือแม่งโคตรเล็กแล้วด้วยนี่ ราคาคือลอยไปหลายสิบล้านครับ ก็ยังมีคนซื้อนะครับ แต่เป็นทางประเทศจีนที่ทำสถิติซื้ออเมริกันบูลลี่ที่แพงที่สุดในโลกไปได้ หลายตัวแล้วด้วยครับ^^ |
สรุปตรงนี้ว่า Exotic Bully คือรูปแบบของบูลลี่นะครับ ไม่ใช่ขนาดของบูลลี่... Exotic Bully จะมีหลายขนาดด้วยกัน ตั้งแต่ Extreme Exotic, Pocket Exotic, Micro Exotic, Nano Exotic ทุกชื่อล้วนแล้วแต่เป็นชื่อเรียก ยังไม่มีมาตรฐานการประกวดแบบแยกรุ่นใดๆ มารองรับ ซึ่งเวลาเราจะประกวดกันก็เลยเรียกเหมารวมรุ่นเลยว่า Exotic Bully ไปเลยครับ... “ยังไงผมก็ยังรักอเมริกันบูลลี่ในสไตล์เอ็กโซติกแบบนี้ไปอีกนาน” เอาแค่นี้พอแล้ว ใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็สามารถโทรเข้ามาสอบถามผมได้นะครับ ยินดีให้คำปรึกษาทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ “อเมริกันบูลลี่” ครับผม ...
ต้อม TNT KENNEL 21/3/2564... |
 |
| |
|
| |
 |
| |
